วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

รร.พธ.พธ.ทร.กับการจัดการศึกษาเฉพาะทาง

บทความพิเศษเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนพลาธิการ
(26 มิ.ย. 51)
  • เมื่อกล่าวถึง รร.พธ.พธ.ทร. แล้ว เชื่อว่าทหารเหล่าพลาธิการทุกท่านคงจะรู้จักกันดีในฐานะที่เป็นสถานศึกษาซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตและพัฒนาบุคลากรในสายงานพลาธิการที่มีคุณภาพให้แก่ ทร. แต่ รร.พธ.ฯ ยังมีสถานภาพในอีกแง่มุมหนึ่งที่หลายท่านอาจยังไม่รู้จักก็คือ การเป็นสถาบันการศึกษาเฉพาะทาง แห่งหนึ่งของ ทร.  ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่บัญญัติไว้ว่า กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น อาจจัดการศึกษาเฉพาะทางตามความต้องการและความชำนาญของหน่วยงานนั้นได้  โดยคำนึงถึงนโยบายและมาตรฐานการศึกษาของชาติ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง”   ซึ่งกฎกระทรวงว่าด้วยการศึกษาเฉพาะทาง พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมไว้ โดยมีใจความที่สำคัญคือ  สถานศึกษาต้องจัดให้มีการประกันคุณภาพภายใน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก
  • รร.พธฯได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ดังกล่าวและได้พยายามจัดรูปแบบการศึกษาของนรจ.ให้มีลักษณะเฉพาะที่คำนึงถึงทั้งสองด้าน คือทั้งด้านความต้องการกำลังพลของกองทัพ และด้านมาตรฐานการศึกษาของชาติ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติที่ผ่านมายังมีปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานและการบรรลุเป้าหมายอยู่หลายประการ ทั้งด้านองค์วัตถุและองค์บุคคล ซึ่งเป็นปัญหาที่สถานศึกษาทางทหารหลายแห่งล้วนประสบอยู่เช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อสะท้อนภาพให้ทุกท่านได้เห็นถึงปัญหาและการยอมรับของบุคคลภายนอกที่มีต่อสถานศึกษาของทหารในบางแง่มุม จึงใคร่ขอยกข้อคิดเห็นและมุมมองของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ได้กล่าวถึงสถานศึกษาของทหารเอาไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
  • การศึกษาเฉพาะทางของทหารนั้น ค่อนข้างถูกละเลย ใน 3 เหล่าทัพมีโรงเรียนในสังกัดอยู่ถึง 70 กว่าแห่ง แต่ยังขาดการสนับสนุนจากองค์กรภาครัฐ ครูทหารยังไม่ได้รับการพัฒนาที่ต่อเนื่อง มีครูวนเวียนเข้ามาทำหน้าที่สอนแบบไม่ต่อเนื่อง ขาดความตรงเฉพาะด้าน วุฒิการศึกษาไม่ตรง มีแต่ความชำนาญ มาโดยตำแหน่ง มีปัญหาการเทียบโอน ผู้สำเร็จการศึกษาเฉพาะทางจากสถาบันทหารยังขาดโอกาสทางการศึกษา ไปศึกษาต่อไม่ได้ ถ้าไป ต้องลดไปใช้วุฒิที่ต่ำกว่า ทำให้ขาดโอกาสทางการศึกษา
  • จากข้อคิดเห็นดังกล่าว หากเราพิจารณาด้วยใจเป็นธรรมแล้ว ก็จะเห็นว่ามีความจริงอยู่ค่อนข้างมาก ข้อคิดเห็นนี้ จึงเป็นสิ่งที่ช่วยบอกกล่าวได้ว่า ในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาอบรมในสายวิทยาการพลาธิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาของ นรจ.ซึ่งจะเป็นกำลังพลระดับนายทหารประทวนหลักของเหล่าทหารพลาธิการต่อไปนั้น หากจะปล่อยให้ รร.พธ.ฯ เป็นผู้รับภาระในการ สร้างและพัฒนาคนให้ได้ตามมาตรฐานที่ถูกกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานพลเรือนแต่เพียงลำพังแล้ว ก็ยากที่จะประสบผลสำเร็จ
  • ดังนั้น เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย รร.พธ.ฯ จึงต้องการความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพวกเราชาวพลาธิการทุกคนที่จะเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางการศึกษา โดยเข้ามามีส่วนช่วยเหลือและร่วมให้การสนับสนุน ทั้งด้านกำลังกาย กำลังความคิด กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์ (หากอยู่ในวิสัย) หรือแม้แต่เพียงกำลังใจ  ซึ่งเรื่องนี้นับว่ามีความสำคัญมาก เพราะหากเราได้พิจารณาดูองค์กรหลายแห่งที่ประสบความสำเร็จอยู่ในขณะนี้แล้วจะพบว่า องค์กรเหล่านี้แม้ว่าในอดีตอาจจะเคยทุ่มเทในด้านองค์วัตถุและเทคโนโลยีกันอย่างมากมาย แต่ปัจจุบันต่างก็ได้หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และทุนมนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะองค์กรเหล่านี้ตระหนักดีว่า คุณภาพของคนและองค์ความรู้จะเป็นเครื่องชี้นำถึงอนาคตและความอยู่รอดขององค์กร
หากกล่าวในประเด็นนี้แล้ว ก็น่าปลื้มใจอยู่ว่า บรรพบุรุษทหารเรือของเราได้มีวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้มาตั้งแต่ในอดีตแล้วเช่นเดียวกัน ดังจะเห็นได้จากคำสอนของคุณครูหลายท่านที่ย้ำว่า เหล็กในคน สำคัญกว่าเหล็กในเรือ พวกเราทุกคนจึงควรที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของท่านเหล่านั้นมิใช่หรือ



ข้างบนนี้คือบทความที่เผยแพร่ในข่าวสาร พธ.ทร.เมื่อปีงบประมาณ 51 ซึ่งผมได้รับมอบหมายจาก น.อ. สุรวิทย์ อาษานอก ผอ.รร.พธ.ฯ ในขณะน้ัน ให้เขียนบทความเกี่ยวกับบทบาทของ รร.พธ.ฯ ในฐานะสถานศึกษาที่จัดการศึกษาเฉพาะทาง ซึ่งได้เคยเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ รร.พธ.ฯ แล้วเช่นกัน แต่ปัจจุบันได้เอาออกไปแล้ว ผมไปเจอโดยบังเอิญจากการ Search Google ค้นหาชื่อตัวเอง เลยคิดว่าน่าจะนำมาเก็บไว้ให้ดูกันต่อไป ซึ่งแม้จะไม่ใช่บทความที่ให้ข้อมูลด้านการบริหารจัดการศึกษามากนัก เพราะจุดประสงค์หลักคือการบอกกล่าวเรียกร้องความสนใจและความร่วมมือจากชาว พธ.ทุกคนให้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือ รร.พธ.ฯ ด้านการศึกษาในวันคล้ายวันสถาปนา รร.พธ.ฯ แต่อย่างน้อยมันก็สะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงบางประการของความเป็นอยู่และเป็นไปในแวดวงการศึกษาของ พธ.ทร.ที่ยังคงรอการแก้ไขและปรับปรุงอยู่ 

ข้อสอบเด็กอนุบาล [ที่ไหนเนี่ย]

ข้อสอบเด็กอนุบาล [ที่ไหนเนี่ย]


Which way is the bus below travelling?
คุณคิดว่ารถกำลังไปทางไหน

To the left or to the right?
ไปทางซ้ายหรือทางขวา





Can't make up your mind?
ตอบไม่ได้ใช่ใหม

Look carefully at the picture again.
ลองดูรูปให้ดีอีกครั้งสิ

Still don't know?
ก็ยังไม่รู้ใช่ใหม

Primary school children all over the UK
were shown this picture and asked the same question.
เด็กอนุบาลที่ UK ได้ดูรูปนี้และถูกตั้งคำถามเดียวกัน

90% of them gave this answer:
90% ของเด็กที่ดูรูปสามารถตอบคำถามนี้ได้ว่า

'The bus is travelling to the right.'
'รถกำลังไปทางขวา'

When asked, 'Why do you think the bus is travelling to the right?'
'ทำไมถึงคิดว่ารถไปทางขวาล่ะ'

They answered:
เด็กๆ ตอบว่า

'Because you can't see the door to get on the bus.'
'เพราะว่าเราไม่เห็นประตูให้ขึ้้นรถน่ะสิ'

How do you feel now???
ตอนนี้คุณรู้สึกยังไง

I know, me too.
ผมรู้ เพราะผมก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน


  

จาก http://www.skupload.com
เครดิต : unigang